6 ที่เที่ยว บ้านแม่กำปอง-Meakumpong
6 จุดที่เที่ยว บ้านแม่กำปอง แหล่งท่องเที่ยวฮอตฮิต ที่หลายคนปักหมุดอยากมาเที่ยวให้ได้ซักครั้ง เที่ยวแม่กำปอง สองวันหนึ่งคืน เที่ยวได้ครบ ขึ้นดอยสูงชมวิว ชมโบสถ์กลางน้ำ เดินดูวิถีชีวิตท้องถิ่นใช้ชีวิตและสโลว์ไลฟ์นอนฟังเสียงน้ำไหล กับที่พักติดลำธาร
เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ ปลายฝน ต้อนรับต้นฤดูหนาว มุ่งหน้าสู่อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ สู่หมู่บ้านท่องเที่ยว
กลางหุบเขา ที่ชื่อว่า บ้านแม่กำปอง ที่ตั้งอยู่อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางป่าเขาเขียวขจี
มีลำธารใสเย็นไหลพาดผ่าน ความสุขของการมาท่องเที่ยวหมู่บ้านแม่กำปอง คือ การได้มาสัมผัสอากาศบริสุทธิ์ความเป็นธรรมชาติของป่าไม้
ลำธารและวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ของชาวบ้านที่ยังคงอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างลงตัว ด้วยความบริสุทธิ์ของธรรมชาติ และตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่
การเดินทางไปแม่กำปอง โดยรถส่วนตัว ขับผ่าน
อ.สันกำแพง ระยะทาง 50
กิโลเมตร และห่างจากตัว อ.แม่ออน 20 กิโลเมตร ส่วนใหญ่เป็นถนนลาดยางและเทคอนกรีต
สามารถ เดินทางได้สะดวกสบายทุกฤดู และสามารถใช้รถได้ทุกชนิด
การท่องเที่ยวในบ้านแม่กำปอง
เป็นแบบวันเดียวก็เที่ยวเสร็จ จุดท่องเที่ยวมีไม่กี่แห่ง แต่ต้องของบอกค่ะว่า
แต่ละจุดที่จะพาไปเช็คอินในทริปนี้ น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
จุดแรก
เมื่อเราขับรถมา เป็นทางขึ้นสู่หมู่บ้าน ก็จะพบกับ ผาน้ำลอด ตั้งอยู่เลยจากโครงการหลวงตีนตก ประมาณ 200 เมตร
น บริเวณด้านหน้าจัดสวนหย่อมร่มรื่น มีสะพานเชื่อมไปยังผาน้ำลอดผ่านต้นไม้เขียวขจี
และก้อนหินขนาดน้อยใหญ่ที่มีอยู่ทั่วบริเวณบริเวณผาน้ำลอดมีก้อนหินขนาดใหญ่มีช่องว่างใต้ก้อนหินให้ลำน้ำไหลผ่านได้ ซึ่งเป็นความอัศจรรย์ของธรรมชาติที่งดงามแปลกตา
ถือเป็นจุดแวะอีกหนึ่งจุดเมื่อมาเที่ยวโครงการหลวงตีนตกและหมู่บ้านแม่กำปอง
เช็คอิน จุดที่สองกันที่ วัดกันธาพฤกษา
หรือ วัดแม่กำปอง วัดนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2473 เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านแม่กำปองมากว่า
90 ปีแล้วถือเป็นวัดเดียวในหมู่บ้านแม่กำปอง ที่สร้างมาในยุคเดียวกับการเข้ามาตั้งถิ่นฐานของชุมชน
ลักษณะเป็น สถาปัตยกรรมของภาคเหนือ วิหารหลังเก่าเป็นไม้ทั้งหลัง หน้าจั่วหลังคาวัดแกะสลักจากไม้สัก
เป็นลวดลายแบบล้านนา เมื่อเข้ามาภายในวัดบรรยากาศเงียบสงบ
มีเพียงเสียงน้ำไหลที่อยู่ทางด้านล่าง เดินตามเส้นทางลงมาตามเนินเขาจะพบกับลำธารและโบสถ์หลังเล็กๆ
ที่ตั้งอยู่กลางน้ำ เรียกว่าเป็นอีกหนึ่ง Unseen ของหมู่บ้านแม่กำปองกันเลย
ค่ะ
เสน่ห์ ที่ถือเป็นไฮไลท์ของการท่องเที่ยวบ้านแม่กำปอง
ก็คือการเดินเล่น ไปตามถนนกลางหมู่บ้าน ที่สองข้างทาง เป็นทั้งร้านอาหาร
ร้านจำหน่ายสินค้าพื้นเมือง ร้านกาแฟ บ้านพัก
และบนถนนเส้นนี้ยังมีจุดให้แวะถ่ายภาพเก๋ ๆ อยู่ตลอดเส้นทางเลยทีเดียวค่ะ
จะหาอาหารพื้น ๆ อย่างไส้อั่วอร่อย ๆ ข้าวซอย ก็สามารถแวะเลือกทานกันได้ เปิดตลอดทั้งทั้งแต่จะคึกคักเป็นพิเศษในช่วงเย็น
ๆ ค่ะ
มาแม่กำปองทั้งทีแนะนำให้ตื่นเช้าๆ ลุกขึ้นมาสัมผัสความหนาวเย็นและไอหมอก
แต่น้อยคนนักจะรู้ว่าที่หมู่บ้านแห่งนี้ ก็มีจุดชมวิวให้ชมทะเลหมอกด้วย
ดอยกิ่วฝิ่น ซึ่งอยู่ถัดจากที่พักขึ้นไปเพียง 4 กิโลเมตรเท่านั้น แต่เส้นทางก็ถือว่าค่อนข้างชัน มีโค้งหักศอกต้องอาศัยความชำนาญในการขับพอสมควร
แต่หากใครไม่มั่นใจก็สามารถติดต่อให้ชาวบ้านพาขึ้นไปได้ ค่าบริการประมาณคนละ 100 บาทเท่านั้น
กิ่วฝิ่น อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,517 เมตร และตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานฯ แจ้ซ้อน เรียกว่าข้ามไปอีกนิดก็จังหวัดลำปางแล้ว
และจากจุดนี้เราสามารถชมวิวป่าได้คลอบคลุมถึง 2 จังหวัด คือ เชียงใหม่ และ ลำปาง
ขาลงมาจาก กิ่วฝิ่น
นักท่องเที่ยวสามารถแวะ น้ำตกแม่กำปอง เที่ยวกันต่อได้เลย น้ำตกแห่งนี้ มีความสูงกันถึง
7 ชั้น น้ำตกใสสะอาดเย็นชื่นใจ มีต้นเฟิร์น และตะไคร่น้ำขึ้นอยู่ทั่วไป ซึ่งมีต้นน้ำเป็นแหล่งกำเนิดของประปา
หมู่บ้านแม่กำปองที่ชาวบ้านร่วมกันสร้างนั่นเองค่ะ
ก่อนเตรียมตัวกลับ สำหรับทริปนี้
สองวันหนึ่งคืน ในบ้านแม่กำปอง แอบแวะชมพิพิธภัณฑ์ เรื่องราว คนป่าเหมี๋ยง
ที่รวบรวมเรื่องราว วิถีชีวิตของผู้คนที่นี่ไว้ ข้าวของเครื่องใช้
นิทรรศกาศบอกเล่าเรื่องราวที่เป็นความรู้สำหรับนักท่องเที่ยว และก็พลาดไม่ได้ก่อนจะกลับแวะอุดหนุนของที่ระลึก
หมอนใบชาจากฝีมือกลุ่มแม่บ้าน มีทั้งหมอนใบชา
และหมอบใบชาสำหรับดูดกลิ่นอับในตู้เสื้อผ้า ของชิ้นเล้ก ๆ ราคาไม่แพง
แต่ใช้ประโยชน์ได้จริง ค่ะ
เป็นยังไงกันบ้างทริปนี้ขอบอกเลยว่าเน้นชิลล์
เน้นกิน แวะตะลุยเก็บมาเรียกว่าอะไรเด่นๆ ในหมู่บ้านเหมือนยกมารวมกันไว้ที่นี่แล้ว
และหวังว่าทริปนี้จะเป็นตัวช่วย ที่อยากให้ทุกคนมาเที่ยวแม่กำปอง หมู่บ้านเล็กๆ กลางหุบเขาสุดสโลว์ไลฟ์...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น